The Hunger Games Trilogy
ได้ยินชื่อหนังสือชุด The Hunger Games โดย Suzanne Collins มาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว รู้ว่าดังมาก สนุกมาก และพล็อตน่าสนใจมาก แต่ก็ยังเก้ๆ กังๆ ไม่ยอมอ่านเสียที เพราะกลัวความรุนแรงในเรื่อง เพราะพอรู้ว่าเรื่องดำเนินในอนาคต มีประเทศเกิดใหม่หลังจากการล่มสลายของโลกในปัจจุบัน ควบคุมโดยรัฐบาลที่กุมอำนาจทุกอย่าง แบ่งเขตประเทศออกเป็น 13 เขต แต่เขต 13 ก่อกบฎจนถูกกวาดล้างเรียบวุธ จึงเหลือเพียง 12 เขต และเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอำนาจของรัฐ และป้องกันการก่อกบฎ จึงมีการจัดเกมเพื่อรำลึกถึงวันนั้น โดยแต่ละเขตจะต้องส่งเด็กชายหญิงอย่างละคนจากการจับฉลาก มาเป็นเครื่องสังเวย (tributes) เพื่อฆ่ากันเองจนเหลือคนสุดท้าย ผู้ชนะจะได้รางวัลมากมาย รวมถึงเขตของตนก็จะกินดีอยู่ดีด้วย
ผู้เขียนบอกว่าเป็นพล็อตที่ได้มาจากตำนานเทพกรีกโบราณ เรื่องที่ว่ากษัตริย์ (จำชื่อไม่ได้) ให้เมืองขึ้นส่งคนมาเป็นเครื่องบรรณาการ เพื่อเข้าไปในเขาวงกต หากใครออกมาได้ ก็รอดชีวิตกันไป แต่เขาวงกตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะใครเข้าไปไม่เคยได้ออกมาสักราย เนื่องจากในนั้นมีสัตว์ร้ายครึ่งคนครึ่งกระทิงอยู่ แต่พระเอกในเรื่องก็ออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าหญิง (ประมาณนั้น) จากพล็อตกรีกบวกกับรายการเรียลลิตี้โชว์ที่ดูผ่านตาและสารคดีเกี่ยวกับสงครามทำให้เกิดเป็นนิยายชุด The Hunger Games ขึ้น
กลับไปที่ว่า ทำไมไม่ยอมอ่านสักที เพราะกลัวความโหดร้ายในเรื่อง >_< นายน้อยเป็นพวกหลีกเลี่ยงเรื่องโหดร้าย คือถ้าเป็นหนังผี ยังพอดูได้ อ่านได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เอาคนไปทรมาน โรคจิตฆ่าคนเป็นผักปลา ซอมบี้ อะไรอย่างนี้จะเลี่ยง เพราะมันน่ากลัวกว่าคุณผีๆ ทั้งหลาย
แต่พอหนังเข้าโรง ก็แหม…นะ ขอลองสักหน่อย ถ้าหนังสือเขาไม่ดีจริง คนคงไม่อ่านกันมากมายขนาดนี้ และพอได้ลองอ่าน ก็ติดใจจริงๆ เป็นหนังสือที่อ่านเร็วมาก เทียบกับเวลาในการใช้อ่านหนังสือของนายน้อยแล้ว ถือว่าเร็วมาก สองคืนต่อเล่ม ตอนนี้อยู่ระหว่างอ่านเล่มสุดท้าย Mockingjay
(อาจจะมีสปอยล์เบาๆ แต่ไม่พูดถึงปมสำคัญนะคะ)
ถามว่าแล้วช่วงโหดร้ายที่กลัวล่ะ ในเล่มแรก The Hunger Games ยังไม่โหดเท่าที่แอบคิดไว้ คือโหดในระดับที่อ่านแล้วก็ เฮ้อ…ชีวิตมันช่างโหดร้ายเนอะ เอาเด็กมาฆ่ากันเป็นเกม แล้วคนก็เชียร์ (พลอยนึกไปถึงหนังเรื่อง Real Steel ที่คนสู้กันไม่มันส์พอ เอาหุ่นมาสู้กันดีกว่า) แต่พอดำเนินเรื่องมาเล่มที่สอง Catching Fire คือเราคิดว่าอะไรๆ มันคงจะดีขึ้นแล้ว แต่ไม่เลย เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม และเล่มที่สาม ก็ยังยิ่งเพิ่มความโหดมากขึ้นตามลำดับสเกลของเรื่องที่ดำเนินไป
ในเล่มแรก เหมือนเป็นแค่เรื่องของเกม นางเอก Katniss ที่ต้องเอาตัวรอดจากเกมให้ได้ โดยอาศัย “รักโปรโมท” กับเพื่อนร่วมทีม Peeta ที่นายน้อยเลิฟมาก>_< เป็นพระเอกแบบที่ โอ้ย…พ่อพระ ฉลาด หัวคิดเป็นนักการทูตสุดๆ คือรู้ว่าเวลาไหนต้องพูดอะไร ทำอะไร เป็นแค่ลูกชายร้านขายขนมปัง แต่ว่าฉลาดล้ำ คนอ่านปลื้ม ที่สำคัญ รักนางเอกมาก >_< ถึงมากที่สุด ตอนอ่านเล่มแรกเลยแอบเจ็บปวดเล็กๆ เพราะนางเอกทำเป็นว่ารักไปตามเกม (ในใจสับสนอยู่ ไม่รู้ว่าคืออะไร) มันช้ำก็ตรงนั้น แต่เรื่องไม่ได้เน้นหนักไปที่ความรักของตัวละคร เรื่องเน้นหนักไปที่ตัวนางเอกของเรื่องที่ตกกระไดพลอยโจนต้องมารับบทบาทหนักในเรื่องที่ใหญ่เกินตัว
ช่วงดราม่าทำเอาตอนอ่านถึงกับตีบตัน จุกในลำคอ มันแบบ…โลกช่างโหดร้าย เฮ้ย ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ คือไม่ว่าจะเป็นใครตายในเรื่อง (รู้ๆ กันได้เลยว่า เรื่องนี้ต้องมีหลายศพ) มันก็สะเทือนใจด้วยกันทั้งหมด ตอนนี้อ่านมาถึงบทที่ 5 ของเล่มสุดท้าย รู้สึกสงสารนางเอกจับจิต เหมือนหนีเสือปะจระเข้ก็ไม่ปาน เพราะไม่ว่าจะรัฐบาล หรือคณะกบฎก็ดูโหดร้ายด้วยกันทั้งคู่ เหมือนหนีโซเวียตมาเจอเกาหลีเหนืออะไรอย่างนั้น
ใครที่กำลังคิดว่า จะลองอ่านดีมั้ยนะ แนะนำให้อ่านค่ะ สนุกจริงๆ ไม่ผิดหวัง สำหรับหนัง ส่วนตัวชอบนะคะ คิดว่าทำได้ดี ผู้กำกับแปลงความคิดของนางเอก มาใส่เป็นตัวละครอื่นๆ ดำเนินเหตุการณ์ได้ดี ดูแล้วชอบ แน่นอนว่าการดัดแปลงหนังสือไปเป็นหนังย่อมไม่สามารถทำได้ตรงทุกอย่างเป๊ะๆ แต่นายน้อยพอใจกับผลที่ออกมา ช่วงดราม่าที่ถึงกับถอนหายใจ มันเศร้า (เศร้าไม่เศร้า ก็ได้ยินเสียงผู้ชายข้างหลังแอบสะอื้นเลยทีเดียว 55)
ช่วงนี้งานเขียนอาจจะกระเตื้องช้านิดๆ เพราะติดอ่านนิยายชุดนี้ แต่ถ้าอ่านจบเมื่อไหร่ก็ลุยกันต่อไม่ย่อท้อแน่นอนนะค้า
ใครที่ดูหนัง หรือว่าอ่านหนังสือ ชอบฉากไหนเป็นพิเศษ มาคุยกันนะคะ ^_^ อยากรู้ว่าแต่ละคนอ่านหรือว่าดูหนังแล้วคิดยังไงบ้าง ชอบมั้ย
Archives
Calendar
M | T | W | T | F | S | S |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |