About Me

นายน้อย เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่หลายๆ คนเคยเข้าใจ เติบโตมากับครอบครัวใหญ่สไตล์คนจีน เรียนหนังสือจบตามหลักสูตรจนได้ใบปริญญากับเขาหนึ่งใบ ยังไม่มีความคิดจะเพิ่มใบใหม่ๆ ในเร็ววันนี้ แต่ยังคงหาความรู้ไปเรื่อยๆ รอบตัวเราดังเป็ดน้อยที่ยังคงเห็นว่าทะเลสาบที่ชื่อโลกนั้นกว้างใหญ่เหลือเกิน

นายน้อยเริ่มเขียนนิยายอย่างจริงจังเมื่อเรียนมัธยมปลาย โดยเขียนเป็นตอนๆ ตอนแรกให้เพียงเพื่อนสนิทสามคนอ่าน แต่เพราะเพื่อนเรียนอยู่คนละห้อง วันหนึ่งเมื่อเอานิยายที่ปรินท์ออกมาไปส่งให้อ่าน ก็มีเพื่อนคนอื่นๆ ในห้องนั้นมาทักแล้วถามว่า ตอนใหม่มาแล้วเหรอ อ่านเลยได้มั้ย ตอนนั้นเลยได้รู้ว่าสิ่งที่เราเขียนก็ใช้ได้เหมือนกัน

ระหว่างที่เขียนเรื่องแรกอยู่นั้น ก็ลองผิดลองถูกเขียนอยู่หลายเรื่อง หลายแนว แต่ไม่จบสักเรื่อง กลับมาอยู่ที่เรื่องแรกที่เพื่อนอ่่านแล้วติดจนต้องเขียนกันอาทิตย์ต่ออาทิตย์

เมื่อเข้ามหาลัย อินเตอร์เน็ตเริ่มมีบทบาทมากขึ้น และได้อ่านงานใน love-stories ของพี่ตา สิรินดา เมื่อพี่ตาเปิดบอร์ดให้ลองโพส จึงนำเรื่องที่ตอนนั้นพยายามแต่งให้โตขึ้นไปโพส ผลตอบรับเล็กๆ น้อยๆ จากกลุ่มคนที่ชอบการเขียน การอ่านเหมือนกัน ทำให้มีกำลังใจและเขียนลงเป็นตอนๆ มาเรื่อยๆ

ระหว่างที่เขียนอยู่สองเรื่อง นายน้อยก็ริเริ่มลองอะไรใหม่ๆ ด้วยวิธีการเขียนที่คงใกล้เคียงกับเรียลริตี้โชว์ในสมัยนี้คือ interactive novel มีการเปิดโหวตในตอนท้ายของทุกตอนจากตัวเลือก ก. ข. ค. ว่าคนอ่านอยากให้เรื่องดำเนินไปในทางไหน ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ บอสหน้าตายกะยัยสอางค์ นิยายเรื่องแรกที่ได้ตีพิมพ์ในช่วงเวลาต่อมา

ช่วงแรกไม่เคยคิดส่งผลงานไปที่ไหน แม้จะมีพี่ๆ ที่รู้จักได้ตีพิมพ์ผลงานกับทางแจ่มใสบ้างแล้วก็ตามที เพราะยังกลัวว่าเรื่องที่เขียนอาจจะยังไม่ดีพอ จึงหันมาทำรวมเล่มเอง ขายกันในหมู่คนอ่านที่สนิทสนมกันจากเว็บ รายได้เล็กๆ น้อยๆ กับการได้จับงานของตัวเองเป็นเล่มนั้นมีความสุขมาก

จนวันที่ดีใจที่สุดคงเป็นวันที่ได้รับอีเมล์จากทางสนพ.แจ่มใสว่ามีโอกาสได้อ่านงานผ่านทางเว็บไซต์และสนใจอยากให้ส่งเรื่องเข้าไปพิจารณา จำ/ด้ว่าเป็นวันที่ตื่นเต้นที่สุด แม้จะยังไม่แน่ใจว่าเรื่องจะผ่านหรือไม่ แต่การได้รับความสนใจทำให้คนเขียนคนหนึ่งอยากจะผลักดันตัวเอง

และเมื่อเรื่องผ่านจนได้รับการตีพิมพ์ การได้เห็นหนังสือเรื่อง บอสหน้าตายกะยัยสอางค์บนชั้นเป็นครั้งแรก เป็นความภูมิใจอยู่ลึกๆ การที่พ่อและแม่ซื้อผลงานของเราไปฝากญาติๆ ก็ทำให้มีความสุข แต่คงไม่เท่าการไปงานหนังสือในฐานะนักเขียนเป็นครั้งแรก ได้เห็นผลงานในมือคนอ่าน ได้ฝากข้อความไปกับหนังสือเล่มนั้น เป็นภาพที่จำมาจนตอนนี้

เล่มแรกๆ ของนายน้อยเป็นการเขียนตามใจตัวเอง ทั้งยังได้รับโอกาสอื่นๆ จากทางสนพ. ในการแปลนิยายอีกด้วย แต่นิยายหลังจากสองเล่มแรก นายน้อยเริ่มคิดถึงคนอ่นมากขึ้น คำนึงมากขึ้นว่าเขาจะได้อะไรจากหนังสือของเรา แน่นอนว่านิยายคือความบังเทิง แต่หากจะมีเรื่องดีๆ สักเล็กน้อยแถมไปกับนิยายเล่มนั้นก็คงเป็นเรื่องดีไม่น้อย

นายน้อยอาจจะไม่มีผลงานออกมามากมายในหลายรอบปี แต่งานเขียนยังคงเป็นงานสนุกที่ท้าทายสมองอยู่เสมอ และดีใจทุกครั้งที่ได้รับความคิดเห็นจากคนอ่านทั้งติชมและสนับสนุนกัน

ตอนนี้อยู่ระหว่างสร้างผลงานใหม่ ช่วงที่ห่างหายก็กลับไปค้นหาว่าแนวทางไหนที่เราถนัดที่สุด และทำได้ดี นายน้อยคิดว่านายน้อยหาเจอแล้ว คนอ่านคงจะต้องรออีกนิด ลองดูกันว่านิยายแนวที่ว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อผลงานเล่มใหม่ออกมา